ข่าวเด่นวันนี้ 4/6/2566

เปิดสาเหตุ "แจ็ค เดอะโกสต์" สั่งพักงาน "วีวี่" ลูกน้องคนสนิท ทำแฟนรายการช็อก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "The Ghost Radio" โพสต์ประกาศจากทางรายการ เรื่องการพักงานไม่มีกำหนด ของทีมงาน The Ghost Radio ใจความระบุว่า ผม "แจ็ค วัชรพล ฝึกใจดี" มีความจำเป็นที่จะต้องแจ้งให้ทุกท่านทราบ เรื่องการพักงานของทีมงาน "น้องวีวี่" ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในหน้าเฟซบุ๊กของน้องวีวี่ และตามข้อเท็จจริงที่ได้รับทราบจากแฟนรายการที่เกี่ยวข้อง เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต และเจ้าตัวรับทราบดีมาโดยตลอดว่าบริษัทฯ มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยของแฟนรายการ เพื่อคงมาตรฐานการทำงานของทางรายการให้ดีที่สุด จึงต้องดำเนินการตามที่แจ้ง การพักงานน้องวีวี่ อาจจะทำให้แฟนรายการหลายท่านขุ่นเคืองใจ ว่าทำไมถึงไม่อนุโลมให้กับน้อง ผมทำไม่ได้ครับ เพราะเงื่อนไขและเหตุการณ์เกี่ยวกับวินัยในการทำงานเกี่ยวกับการสื่อสารกับแฟนรายการ ถือเป็นกฎเหล็กและข้อห้ามที่ผมย้ำและบอกกับทีมงานมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับน้องวีวี่ เพราะเราอยู่ด้วยกันมานาน ผมคาดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง และเกิดกับน้องที่ผมรักและไว้วางใจ ความเสียหายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ตัวผม แต่เหตุการณ์นี้เป็นการที่ทำให้บริษัทฯ และทีมงานไม่อาจร่วมงานกับน้องวีวี่ได้ ขอให้ทุกท่านเข้าใจเถอะครับว่า ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เช่นนี้ ผมมีความจำเป็นที่จะต้องยึดถือข้อบังคับในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา ผมคือคนที่เสียใจที่สุด ทำใจยากที่สุด แต่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อรักษา มาตรฐานความปลอดภัยของแฟนรายการ คุณภาพของรายการ และประสิทธิภาพในการทำงานของบริษัทต่อไป ดังนั้นต่อจากนี้การกระทำใดๆ การติดต่อกับใคร ที่เกิดขึ้นจากน้องวีวี่ จะไม่เกี่ยวข้องกับรายการ The Ghost Radio ขอบคุณครับ แจ็ค วัชรพล ฝึกใจดี 10+ ดูภาพทั้งหมด ทางด้าน "วีวี่ ผีหน้าสวย" โพสต์สาเหตุที่ถูกพักงาน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "วีวี่ หวาง" ระบุว่า สาเหตุเพราะตนเองถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน แล้วก็ถลำลึกไปโกหกพี่แจ็คว่าจะเอาไปจ่ายธนาคารที่จะมายึดบ้านเพื่อขอยืมเงิน ซึ่งพี่ก็ให้ด้วยความไว้ใจ สุดท้ายยอมรับว่าตัวเองโง่เอง สมควรแล้วที่จะถูกพักงาน เตือนภัย มิจฉาชีพ! "เคยได้ยินคำนี้มั้ย หารายได้เสริม ด้วยการปฏิบัติภารกิจ ส่วนตัวไม่เคยได้ยินมาก่อน จนวันหนึ่งมีคนติดต่อเรื่องรีวิวเสื้อผ้าเข้ามา แล้วเค้าก็ดึงเข้ากลุ่มที่มีสาว ๆ 3 ร้อยกว่าคน ในนั้นมีการพูดคุยทั่วไปต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้สนใจอะไร แล้วก็มีประกาศเข้ามาในกลุ่มว่า มีกิจกรรมหารายได้เสริม ด้วยการปฏิบัติภารกิจ บลา ๆ แล้วทุกคนข้างในก็กดเลข 1 กันเป็นแถว ส่วนตัวเราไม่รู้ว่าคืออะไร ก็เลยทักถามคนที่ดึงเข้าไป เค้าบอกคือการปฏิบัติภารกิจ จะได้ค่าคอมตามนั้นเล็ก ๆ น้อย ถ้าไม่ทำครบ 3 ครั้ง จะโดนตัดออกจากกลุ่ม ก็เลยต้องเข้าไปกดตาม กดเสร็จก็มีการพิมพ์ ให้ตัวเลือก 3 อัน ในการกดเลือกจำนวนเงิน และคอมมิชชั่น พอกดไปต่ำสุด เค้าก็จะให้ค่าคอมมานิด ๆ หน่อย ๆ พอเสร็จ ก็มีภารกิจที่ 2-3 มา ซึ่งทุกคนต้องทำ และอาจจะอยากทำเพราะมันได้โบนัสจริง จนวันถัดมา ยอดเงินเริ่มเยอะ พอเราโอนไปภารกิจตัวเลือกที่ 2 ก็มีเจ้าหน้าที่อยู่ดี ๆ ดึงไปเข้ากลุ่มวีไอพี ซึ่งเหลือคนอยู่ 5 คน โดยที่เราไม่ได้ร้องขอ พอเข้าเสร็จ ก็มีเจ้าหน้าที่พิมมาว่า ต้องโอนเพิ่มยอดนี้ ๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจ แล้วจะได้เงินที่จ่ายไปก่อนหน้านี้คืน ด้วยความที่เราเงินน้อยมาก ก็เลยถามว่า อ้าวทำไมบังคับกันไม่บอกก่อนว่าต้องจ่ายเพิ่ม เค้าก็บอกว่าทำอีกภารกิจก็ได้เงินแล้วนะคะ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เลย ๆ ไม่ได้ติดใจอะไร พอโอนไป ครั้งนี้ทุกคนต้องโอนพร้อมกัน ทั้ง 5 คน โอนเสร็จกลับมีภารกิจที่ 3 ที่บอกถ้าไม่โอนจะไม่ได้เงินที่โอนไปคืน เหมือนเป็นการบังคับเราไปแล้ว และยอดเงินก็เยอะมากแล้ว เงินสุดท้ายที่เหลือเราก็โอนไปให้ด้วยความโง่ชิบหาย แค่นั้นไม่พอ มันบอกปฏิบัติภารกิจเลท ต้องโอนเพิ่ม ไม่งั้นจะไม่ได้คืน เราก็เครียดมากเราอยากได้เงินคืน นั่นคือเงินที่จะกั๊กไว้ดูแลที่บ้านนั่นแหละ ที่เราโอนไปให้พวกมัน เราไม่รู้จะทำยังไง ถ้าไม่โอนให้มันอีกมันจะไม่คืน เราเลยต้องไปโกหกพี่ชายที่เรารักอย่างไม่มีทางเลือก ด้วยการขอยืมเงินในจำนวนที่สูง โกหกว่าจะเอาไปจ่ายธนาคารที่จะมายึดบ้าน ซี่งความจริงคือ เราจ่ายปัญหาตรงนั้นไปแล้ว แต่เราเอาข้อนี้ขึ้นมาโกหกเพื่อให้ได้ยืมเงิน พี่เค้าก็โอนให้ทันทีเพราะความเชื่อใจ พอได้เงินก็โอนไปให้มัน ด้วยความที่ยังไม่รู้ว่าโดนหลอก พอโอนเสร็จมันบอกต้องอีกภารกิจสุดท้าย ถึงจะได้เงินคืน ตอนนั้นหลายคนในกลุ่มเริ่มโวยวาย บางคนก็บอกไม่รู้ว่าต้องโอนเยอะขนาดนี้ ซึ่งยอดมันสูงมาก ๆ หลักเป็นแสน เรายิ่งเครียดหนัก เราจะทำไง เราไม่มีแน่ ๆ แต่ถ้าไม่จ่ายเราจะไม่ได้ทั้งหมดคืน เครียดอยู่นานมาก พยายามหายืมคนที่ปล่อยกู้ก็ไม่มี สุดท้ายต้องไปโกหกพี่ชายอีกรอบ เค้าก็ยังเชื่อเราโอนให้ทันที ใจเราตอนนี้มันจะแตกอยู่แล้ว ทั้งโกหกทั้งไม่รู้จะทำไงต่อ พอโอนยอดนี่ไป มันดันบอกคุณทำเกินเวลา ต้องโอนอีก เราเริ่มรู้สึกกว่าเราไม่ไหวแล้ว ตายแน่ ๆ เราตายแน่ ๆ ไม่ได้คืนแน่ ๆ จนเราต้องไปสารภาพความจริงกับพี่เค้าว่า เรื่องเป็นแบบนี้และเราโกหก ซึ่งตอนนั้นข้างในมันร้อนรุ่มไปหมด ว่าเงินทั้งหมดเราทำไงทำไง ไม่ได้คืนแน่ ๆ เรามันโง่ไม่รู้จริง ๆ ตามที่เค้าบอก และจากจุดนี้ก็ทำให้พี่เค้าเสียใจมาก ๆ ที่เราไปโกหกเค้าจากความหวังดี เราสารภาพหมดเลยว่า เราขอโทษที่เราโกหกแค่เราไม่รู้จะพึ่งใครจริง ๆ ตอนนั้นเริ่มรู้แล้วว่าจะไม่ได้คืนเพราะมันไม่คืน มันบอกถ้าไม่ปฏิบัติภารกิจให้เสร็จก็ไม่ได้คืน เราโลกเหมือนสลายลงกับตา เงินทั้งหมดที่สะสมไว้ เงินที่โกหกพี่เค้ามา เราจะทำไง สุดท้ายทุกอย่างก็พังเพราะตัวเราเอง พอไปแจ้งความ ตำรวจก็บอกมีแบบนี้โดนเยอะมาก ให้ทำการอายัดไว้ และในระหว่างขั้นตอนเหล่านี้ ก็ต้องชดใช้สิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้พี่ชายต้องเสียใจ ทำให้ผิดหวัง ทำให้ครอบครัวทะเลาะกัน จนตอนนี้สุดท้าย เราก็ไม่เหลืออะไรเลย มันเอาไปหมดเลย แม้กระทั่งชีวิตเรา เตือนทุกคน เวลาคุยกับมัน มันจะพิม ๆ กำหนดระยะเวลานั่นนี่ จนเราเบลอ ไม่มีสติในการคุยและยั้งคิด เพราะฉะนั้นถ้าเริ่มเจอกลิ่นประมาณนี้ พยายามถอยห่างออกมาให้ได้ อย่าเห็นแก่เศษเงินเล็ก ๆ น้อย ที่มันเอามาล่อเรา จนทำให้เราสุดท้ายครอบครัวของตัวเองก็สะบั้นแตกสาแหรกขาด จนคิดฆ่าตัวตายจริง ๆ ไม่รู้ว่าคนที่เหลือในกลุ่ม คือหน้าม้ารึเปล่า จะกู้เงินใครมาคืนพี่เค้า ก็ไม่มีใครปล่อย แต่ถ้าเราทำอะไรไว้ เราต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำลงไป แค่อยากจะเตือนภัย และบอกว่าเสียใจ อย่าให้คุณต้องเป็นรายต่อไปนะคะ รู้ว่าคนเราทำพลาดกันได้ แต่ครั้งนี้มันใหญ่มาก จนเอาชีวิตเราไปแลกก็ไม่มีค่าพอ ขอโทษพี่แจ็คด้วยที่มีน้องแบบหนู และมันก็สมควรแล้วค่ะ กับการที่พี่พักงานตลอดไป ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ปล.สถานการณ์แบบนี้ มีแต่คนด่าเรา เราโง่ เราไม่ดูข่าวเหรอ เราไม่ปรึกษาใครเหรอ ไม่มีใครอยากโดนแบบนี้ ได้โปรดอย่าเหยียบจนต้องให้ตายคาตีนเลย แค่นี้ก็แย่มากแล้ว ปล.ต้องขออภัยสำหรับการแก้ไขข้อความเรื่องโดเนทนะคะ ตอนแรกแค่พิมเหมือนทิ้งท้ายตลกไว้แก้เครียด ไม่คิดว่าจะเป็นการสร้างความไม่พอใจ ต้องขออภัยกับทุกคนด้วยค่ะ"

หมอโพสต์วอน "คืนหมอให้คนไข้บ้าง" หลังภาระงานอื่นเยอะเกิน นอนน้อยจนรถคว่ำ
หมอโพสต์วอน "ขอเวลาหมอให้คนไข้บ้าง" หลังภาระงานอื่นเยอะเกิน นอนน้อย-ไม่ได้นอน ลงเวรไปประชุมจนรถคว่ำ เพจเฟซบุ๊ก สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวชีวิตของหมอ ที่ต้องทำงาน จนรู้สึกว่า “เหมือนเร่งวันตายมากๆ” โดยเจ้าของเพจดังกล่าวเป็นแพทย์หญิง วัย 30 ปี ได้เล่าเรื่องราวชีวิต ตั้งแต่เรียนจบจนเข้ามาเป็นพนักงานในแผนกหนึ่ง ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่สิ่งที่พบในชีวิตการทำงานคือภาระงานที่หนักมาก ซึ่งภาระงานที่ต้องรับมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเวลาราชการ ต้องตรวจผู้ป่วย พอนอกเวลาราชการ ต้องอยู่เวร ซึ่งเดือนหนึ่ง ต้องอยู่ประมาณ 9-15 เวร ขึ้นอยู่กับวันหยุดของแต่ละเดือน บางครั้งลงเวรดึกในเวลา 08.30 น. ต้องมีประชุมต่อ บางครั้งต้องมีสอนนักศึกษาแพทย์ เก็บข้อมูลตัวชี้วัด และภาระงานอื่นๆ อีกมากมาย จนบางครั้งรู้สึกไม่สบายเวียนหัว เนื่องจากวันหยุดมีน้อย แต่เหตุการณ์ที่หนักสุด ที่แพทย์หญิงคนนี้เจอ คือไม่ได้นอน หลังจากลงเวรต้องขับรถไปประชุมต่อที่ต่างจังหวัด ซึ่งขณะขับรถไปนั้นก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ จากหมอต้องมาเป็นผู้ป่วย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแทน คุณหมอ ยังบอกว่า ภาระงานอื่นๆ มากเกินไป ทำให้เวลาที่ต้องเอามารักษา ตรวจผู้ป่วย รวมถึงการสอนแพทย์ฝึกหัด เพื่อให้ได้รับการเพิ่มทักษะอย่างเต็มที่ ก็ลดน้อยลง หลายครั้งที่หมอได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลเอกชน เพื่อไปทำงาน แต่ก็ต้องปฏิเสธไป เพราะยังอยากพัฒนาโรงพยาบาลที่ตนทำอยู่ ให้ดีขึ้นกว่านี้ “ตอนนี้รู้สึกว่าใช้ชีวิตเหมือนเร่งวันตายมากๆ เห็นคำขวัญที่ว่า คืนครูให้นักเรียน แล้วรู้สึกสะท้อนใจค่ะ อยากให้คืนหมอให้คนไข้บ้าง” พร้อมติดแฮชแท็ก #ลดชั่วโมงการทำงานแพทย์ ต่อมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นประธานการประชุมวางแนวทางดูแลการเพิ่มพูนทักษะแพทย์ผู้ทำสัญญาชดใช้ทุนรัฐบาล ที่ไปปฏิบัติงานในเขตสุขภาพต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และโรงพยาบาลที่เป็นสถาบันฝึกอบรมเพิ่มพูนทักษะ 116 แห่ง ซึ่งกระจายอยู่ทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้แพทย์ที่ไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนในพื้นที่ได้มีโอกาสเพิ่มพูนประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยที่หลากหลาย รวมถึงได้รับการถ่ายทอดทักษะความชำนาญจากแพทย์รุ่นพี่ที่ประจำอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ โดยให้กำชับทุกแห่งให้ความสำคัญ 2 ส่วน คือ 1) ความเป็นอยู่ ให้ดูแลทั้งเรื่องที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก 2) การเพิ่มพูนทักษะ ต้องจัดการเรียนการสอน ภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำโรงพยาบาลตามแนวทางที่แพทยสภากำหนด จัดแพทย์ประจำดูแลควบคู่ทุกเวร โดยเฉพาะการปฏิบัติงานที่ห้องฉุกเฉิน ทั้งนี้ จะมีการส่งข้อมูลข้อดีข้อเสียที่ได้รับมาเพื่อสะท้อนให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้รับทราบด้วย ในปีนี้ บางเขตสุขภาพได้รับจัดสรรแพทย์ลดลง ซึ่งหากดูข้อมูลย้อนหลังจะพบว่าเป็นเขตสุขภาพที่เคยได้มากมาก่อน อย่างไรก็ตาม การจัดสรรแพทย์ของปีนี้ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ โดยรอบปกติที่จัดสรรไปแล้ว ประกอบด้วย แพทย์ทั่วไปจับสลาก 685 คน แพทย์โครงการผลิตแพทย์เพิ่ม 885 คน แพทย์หลักสูตรเวชศาสตร์ครอบครัว 119 คน แพทย์พี่เลี้ยง 166 คน แพทย์สังกัดกรมฯ 6 คน ข้าราชการลาศึกษา 19 คน แพทย์สังกัดคณะแพทยศาสตร์ฝากฝึก (แพทย์นอกสังกัดฝากฝึก) 134 คน และยังมีแพทย์ที่อยู่ระหว่างการบรรจุรอบพิเศษ เมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งเมื่อรวมแพทย์ทั้งหมดที่จะจบการฝึกอบรมเพิ่มพูนทักษะในปีที่ 1 แล้ว จะสามารถเติมเต็มความขาดแคลนแพทย์ของโรงพยาบาลชุมชนได้มากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งทางเพจ สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ก็ได้แชร์ข่าวจาก สธ. ดังกล่าว พร้อมระบุว่า "ทาง สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ขอบคุณสำหรับคำชี้แจงจากกระทรวงสาธารณสุข ที่เร่งแก้ไขปัญหาการกระจายตัว และรับทราบว่ามีปัญหาขาดแคลนแพทย์ หลังจากที่เราได้รับเเจ้งจำนวนแพทย์ใช้ทุนที่ลดลงในแต่ละโรงพยาบาล (โควต้าจับฉลาก)ซึ่งเป็นปัญหาหนักในโรงพยาบาลศูนย์ที่รับผู้ป่วยหนักและจำนวนมากของแต่ละจังหวัด เราได้รับการร้องเรียนเรื่องจำนวนเวรที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้ตัวเลขสูงสุดที่ได้รับร้องเรียนคือ 23 เวร/เดือน ซึ่งเราหวังว่าตัวเลขนี้จะลดลงตามมาตรการที่ท่านรองปลัดได้ชี้แจง ทางเราจึงอยากจะเรียกร้องให้จำนวนแพทย์ปฏิบัติงานไม่ได้อิงจากจำนวนเฉลี่ยของประชากรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการให้เก็บจำนวนชั่วโมงทำงานของแพทย์แต่ละท่านเพื่อหาค่าเฉลี่ยทั้งหมด และเร่งเติมในพื้นที่ที่ต้องทำงานจำนวนชั่วโมงมากก่อน รวมถึงการตามค่าตอบแทนไม่ให้ล่าช้า เพราะจำนวนงานที่หนัก สภาพการทำงานที่เปลี่ยน การไม่มีค่าตอบแทนเลย และรอคอยอย่างไม่มีความแน่ใจว่าจะได้รับเมื่อไหร่ ไม่สามารถจูงใจให้ไม่ว่าอาชีพไหนทำงานต่อไปได้ สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน เป็นการรวมตัวจากคนทำงานด่านหน้า ซึ่งมีฝันที่ธรรมดามากคือการได้พักผ่อนเวลาที่ล้า ได้กินข้าวตรงเวลา ได้ค่าตอบแทนทุกเดือนและเหมาะสม ได้มีวันหยุดพักบ้าง เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสซักนิดในการพบกับครอบครัวของเราในวันสำคัญ และเราอยากมีสุขภาพที่ดีได้ยืนยาวพอที่เราจะมีอายุเฉลี่ยนานเท่าคนทั่วไป พวกเราต้องการให้พวกท่าน ระดับบริหารได้เห็นปัญหาของเราและแก้ไข เพื่อให้เราได้ทำงานบริการประชาชนได้อย่างเต็มที่

สาวก่อสร้างท้อง 6-7 เดือน ยกของหนักจนแท้งลูก กลัวความผิดทิ้งศพเด็กลงขยะ
สาวก่อสร้างท้อง 6-7 เดือน ยกของหนักจนแท้งลูก เด็กหลุดออกมา กลัวความผิดทิ้งศพเด็กลงหลุมขยะ (3 มิ.ย.66) เมื่อเวลา 14.20 น. ร.ต.อ สุพรรณโสภี รองสารวัตรสืบสวน สภ. นาจอมเทียน ได้รับแจ้งมีคนแท้งลูก ก่อนนำร่างเด็กไปโยนทิ้งในหลุมขยะ บริเวณไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง พื้นที่ หมู่ที่ 8 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน ที่เกิดเหตุพบ ร่างทารก เพศชาย อายุครรภ์ประมาณ 6-7 เดือนถูกทิ้งในหลุมขยะ เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างขึ้นมาตรวจสอบ ก่อนส่งชันสูตรเบื้องต้นยัง รพ.สัตหีบ กม.10 จากการสอบถาม รปภ. ไซต์งานก่อสร้าง ทราบว่า เมื่อเวลา 14.20 น. ของวันนี้ แม่บ้านได้วิ่งมาตาม หลังนำขยะไปทิ้ง ก่อนพบร่างเด็กอายุครรภ์ ประมาณ 6-7 เดือนถูกทิ้งในหลุมขยะ เนื่องจากได้กลิ่นเหม็นจึงเดินรอบๆ บ่อดูภายในก้นบ่อพบซากบางอย่างจึงนำไม้ไปเขี่ยจึงรู้ว่าเป็นศพเด็กจึงรีบไปแจ้งให้ ทางรปภ. ทราบ ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบถาม คนงานก่อสร้างทราบว่า ก่อนหน้านี้ มีแม่เด็กเป็นชาวเมียนมา ที่ทำงานก่อสร้างในที่แห่งนี้ ก่อนจะแท้งลูก และมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวน จึงได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ส่วนสาเหตุการแท้ง น่าจะมาจากยกของหนัก จากการทำงานก่อสร้างจึงทำให้แท้งลูกจนหลุดออกมา และเกิดความกลัวความผิดจึงนำเด็กไปทิ้งบ่อขยะ บริเวณด้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นจะได้เรียกแม่เด็กชาวเมียนมามาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป